คนทำงาน ควรลงทุนอย่างไร ลงทุนแบบไหนดี?
ปัจจุบัน ผู้คนต่างให้ความสนใจด้านการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนทั้งแบบระยะยาวและระยะสั้น จนมักเกิดคำถามว่า?... ควรลงทุนแบบไหนดีหรือทำงานแบบนี้เหมาะกับลงทุนประเภทไหน? และไม่ว่าคุณจะทำอาชีพหรือตำแหน่งงานอะไร ก็เลือกลงทุนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ได้ทั้นนั้น
ยุคนี้การลงทุนเป็นเรื่องใกล้ตัว เพราะไม่ว่าใครก็สามารถลงทุนได้! ว่าแต่จะเลือกลงทุนในสินทรัพย์แบบไหน เพื่อส่งเงินของเราไปทำงานให้งอกเงยดีนะ? ฮ้อปได้รวบรวมข้อมูลมาเป็นการแนะนำ ไม่ว่าคุณจะอาชีพอะไร ตำแหน่งไหน ก็เลือกรูปแบบการลงทุนให้เหมาะกับตัวเองได้ และการลงทุนขึ้นอยู่กับความสนใจแต่ละบุคคล
***การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
ก่อนที่เราจะเริ่มนำเงินไปลงทุนทุกครั้ง เราควรตอบตัวเองให้ชัดเจนก่อน เช่น ต้องการลงลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว การลงทุนระยะสั้น – ระยะกลาง ใช้เวลาไม่มาก (อาจจะใช้เวลา 1, 3, 6 เดือนถึงหลายปี) มีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนมากหรือน้อยก็ได้ ขึ้นอยู่กับความเสี่ยง ส่วนการลงทุนระยะยาว ใช้เวลานาน (อาจจะยาวนานหลายสิบปี) มีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนมาก ในขณะที่มีความเสี่ยงจากการผันผวนต่ำกว่า
👉คุณสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน ความเสี่ยงจากการลงทุน คือ โอกาสที่เราจะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่เราคาดหวังไว้จากการลงทุนนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงที่ธุรกิจจะล้ม ขายของไม่ได้ ไปจนถึงความเสี่ยงจากวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ โรคระบาดที่ส่งผลต่อกำลังซื้อ ฯลฯ เรารับความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินลงทุนได้หรือเปล่า
👉ต้องการลงทุนแบบเข้าใจง่ายหรือซับซ้อน การลงทุนมีตัวเลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหุ้น กองทุน ทองคำ อสังหาฯ ค่าเงิน อนุพันธ์ ฯลฯ ซึ่งแต่ละแบบจะมีความยากง่ายและความซับซ้อนแตกต่างกันไป แน่นอนว่าผลตอบแทนและความเสี่ยงก็ไม่เหมือนกัน ต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าเราต้องการลงทุนในรูปแบบไหน
👉มีเวลาติดตามการลงทุนมากน้อยแค่ไหน การลงทุนบางอย่าง เราต้องใช้เวลาในการติดตามอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการลงทุนระยะสั้น อย่างการลงทุนในหุ้น หรืออนุพันธ์ แต่การลงทุนที่ไม่ต้องทุ่มเวลากับมันมากอย่างกองทุนรวม หรืออสังหาฯ มักจะเป็นการลงทุนระยะยาว
🙋♀️พนักงานออฟฟิศจบใหม่ จะลงทุนยังไงดี? ผู้เริ่มต้นทำงาน (First jobber) หรือพนักงานออฟฟิศที่พึ่งเริ่มต้น เป็นกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่ชัดเจน และค่อนข้างกล้าเสี่ยง ซึ่งแต่ละคนก็จะมีปัจจัยแตกต่างกันไป ทั้งลักษณะงาน รายได้ หรือสถานะทางบ้าน ดังนั้นจึงต้องเลือกรูปแบบการลงทุนให้ดี เช่น เน้นการลงทุน: ระยะสั้น หรือ ระยะยาว, ความเสี่ยง: ปานกลาง – สูง
รูปแบบการลงทุนที่น่าสนใจ คือ
1. กองทุนรวมหุ้น คือ การนำเงินของเราไปฝากให้ผู้เชี่ยวชาญลงทุนให้ในสินทรัพย์ประเภทหุ้น ตามแต่ละหมวดหมู่ของธุรกิจนั่นเอง เช่น กองทุนรวมหุ้นสื่อสาร กองทุนรวมหุ้นอุปโภคบริโภค กองทุนรวมอสังหาฯ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ฯลฯ ซึ่งมีความผันผวนไปตามผลประกอบการของบริษัท ข้อดีก็คือ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนและรับความเสี่ยงได้สูง แต่ไม่มีเวลามาลงทุนหุ้นเป็นรายตัวมากนัก มีรูปแบบกองทุนให้เลือกหลากหลาย บางกองทุนเน้นลงทุนในดัชนีหุ้นคุณภาพทำให้มีความเสี่ยงที่ราคาจะผัวผวนต่ำ แต่ก็มีบางกองทุนที่ลงทุนกับหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงเช่นกัน พนักงานบริษัทจึงควรเลือกตามความเสี่ยงที่เรารับได้
2. หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ คือ การที่เราเข้าไปซื้อหุ้นของธุรกิจต่างๆ ที่เปิดให้รายย่อยเข้าไปเป็นเจ้าของธุรกิจร่วมโดยตรง ซึ่งเราสามารถเลือกได้อย่างอิสระ ชอบบริษัทน้ำมัน บริษัทผลิตขนมปัง ฯลฯ ก็เข้าไปซื้อหุ้นของบริษัทนั้นๆ ได้ทันที แน่นอนว่าผลตอบแทนที่ได้ ก็จะขึ้นอยู่กับผลประกอบการของแต่ละบริษัทโดยตรง มีความเสี่ยงปานกลาง – สูง ขึ้นกับว่าบริษัทนั้นทำธุรกิจอะไร และควรต้องมีเวลาติดตามการบริหารงานของบริษัทที่เราลงทุนอยู่เสมอ อย่างการติดตามผลประกอบการ หรือเข้าประชุมผู้ถือหุ้นในฐานะเจ้าของกิจการร่วม
3. สินทรัพย์ความเสี่ยงสูงอื่นๆ เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงและความซับซ้อนสูง ควรทำความเข้าใจให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
💙คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) คือ เงินดิจิทัล หรือสกุลเงินเสมือนจริง ที่ได้รับการเข้ารหัสผ่านระบบบล็อกเชน (Blockchain) ทำให้สามารถยืนยันจำนวนเงินและเจ้าของเงินร่วมกันในระบบเครือข่ายได้อย่างรัดกุม ทำให้คริปโทเคอร์เรนซีได้รับการยอมรับเป็นสกุลเงินที่ใช้แลกเปลี่ยนเป็นเงินสกุลอื่น หรือใช้ซื้อขายสิ่งของกันได้ แต่มีข้อควรระวัง คือ มีความผันผวนสูงมาก เนื่องจากคริปโทเคอร์เรนซียืนอยู่บนอารมณ์และความรู้สึกมั่นใจของคนหมู่มาก โดยไม่มีหน่วยงานใดมากำกับดูแลได้ง่ายๆ
💙ตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน (Forex) คือ การซื้อ – ขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินเงินตราต่างประเทศ หรือก็คือการเก็งกำไรจากค่าเงินในสกุลต่างๆ ซึ่งส่วนต่างของค่าเงินนั้นมีความผันผวนสูงมากในแต่ละวัน จากปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ นโยบายทางการเงินของธนาคารกลาง การเมือง ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ฯลฯ ดังนั้นการลงทุนประเภทนี้จึงต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์และทำความเข้าใจความเคลื่อนไหวในแต่ละประเทศในเชิงลึก ซึ่งใช้เวลาและมีความเสี่ยงสูงเช่นกัน
💙ตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้า (TFEX) คือ การมัดรวมเอาหุ้นของ 50 กิจการที่มีมูลค่าสูงสุดในตลาดหลักทรัพย์มารวมกัน (SET50 FUTURE) โดยจะเป็นการลงทุนที่เราจะคาดหวังว่าตลาดจะปรับตัวขึ้น (Long) หรือจะลดลง (Short) เป็นหนึ่งในรูปแบบการลงทุนที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงตามแน่นอน
🙋♀️พนักงานระดับกลาง หรือระดับผู้จัดการ สำหรับพนักงานออฟฟิศระดับโปร ที่ส่วนใหญ่มักจะมีตำแหน่งและมีรายได้เพิ่มขึ้นแล้ว รูปแบบการลงทุนก็จะเปลี่ยนไปจากผู้เริ่มต้นทำงานอยู่บ้าง เนื่องจากเป็นช่วงวัยของการสะสมสินทรัพย์เพื่อสร้างอนาคต บางคนอาจจะมองหาบ้านหรือคอนโดฯ เอาไว้อยู่อาศัย บางคนอาจจะวางแผนแต่งงานสร้างครอบครัว ดังนั้น ความเสี่ยงในการลงทุนอาจจะลดลง และต้องเพิ่มการลงทุนที่ช่วยบาลานซ์ชีวิตได้มากขึ้น เช่น เน้นการลงทุน: ระยะยาว, ความเสี่ยง: ต่ำ – ปานกลาง
รูปแบบการลงทุนที่น่าสนใจ คือ
1. กองทุนรวม SSF และ RMF การลงทุนสำหรับกลุ่มพนักงานที่มีเงินเดือนสูงขึ้น ต้องเน้นไปที่การลดหย่อนภาษีให้ได้มากที่สุด ซึ่งปัจจุบันจะมีกองทุนรวม SSF (Super Savings Fund) ที่รัฐบาลกำหนดให้สามารถใช้ในการลดหย่อนภาษีได้ โดยกองทุนประเภทนี้ก็มีให้เลือกลงทุนในแทบทุกระดับความเสี่ยงตามที่เราต้องการ แต่มีข้อแม้ว่าต้องถือกองทุนนี้เอาไว้อย่างต่ำ 10 ปีขึ้นไป หรือ RMF ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ที่ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี และจะขายได้เมื่อมีอายุ 55 ปีขึ้นได้ ดังนั้นต้องแบ่งสัดส่วนการลงทุนให้ดี
2. ตราสารหนี้หรือหุ้นกู้ คือ การที่บริษัท หรือกระทั่งรัฐบาลทำสัญญาขอกู้เงินจากประชาชนทั่วไป โดยให้เราสามารถซื้อและกลายเป็นเจ้าหนี้ให้กับบริษัทหรือองค์กรนั้นๆ นั่นเอง แน่นอนว่าการที่เราจะยื่นเงินให้ใครกู้ ก็ต้องดูความน่าเชื่อถือของผู้กู้จริงมั้ย? ถ้าเป็นภาครัฐที่มีการเงินเข้มแข็งก็มักจะน่าเชื่อถือมากที่สุด “พันธบัตรรัฐบาล” ที่มีการจำหน่ายออกมา ก็คือหนึ่งในตราสารหนี้ที่เราน่าจะเคยได้ยินกันบ่อยๆ ผลตอบแทนที่ได้จากตราสารหนี้พันธบัตรรัฐบาลก็มักจะแน่นอนตายตัว คล้ายกับเราปล่อยกู้แล้วได้ดอกเบี้ยมาเป็นกำไรตามระยะเวลาที่ตกลงกัน แต่ทั้งนี้ ถ้าบริษัทหรือองค์กรที่ออกตราสารหนี้ หรือที่เราเรียกว่า “หุ้นกู้“ มาให้เราซื้อเพื่อกู้ยืมเงินเราไปลงทุนต่อไม่มีความน่าเชื่อถือ เราก็ไม่ควรไปซื้อตราสารหนี้ของบริษัทนั้นๆ ซึ่งเราสามารถตรวจสอบอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ ซึ่งจะกำหนดโดบ กลต. และมีการระบุในหนังสือชี้ชวนก่อนลงทุนทุกครั้ง
3. สินทรัพย์ความเสี่ยงสูงอื่นๆ เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงและความซับซ้อนสูง ควรทำความเข้าใจให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
💙ทองคำ (Gold) เมื่อก่อนคนนิยมซื้อทองคำเพราะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Heaven) แต่ในปัจจุบันนี้ทองคำมีความผันผวนของราคาสูงมาก นอกจากราคาจะขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจระดับโลกแล้วยังมีการเก็งกำไรมาเกี่ยวด้วย แต่การลงทุนทองคำทุกวันนี้พัฒนาขึ้นมากจนไม่จำเป็นต้องไปซื้อทองของจริงอีกต่อไป เพราะสามารถลงทุนผ่านโบรกเกอร์ในรูปแบบของกองทุนได้ ไม่ต่างจากกองทุนหุ้น
💙อสังหาริมทรัพย์ (Property) การลงทุนในอสังหาฯ ก็คือการลงทุนซื้อบ้าน คอนโดฯ ทาวน์โฮม ฯลฯ เพื่อปล่อยขาย หรือปล่อยเช่า การลงทุนประเภทนี้ถือว่ามีความเสี่ยงพอสมควร เนื่องจากต้องใช้เวลาศึกษาทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ทั้งในแง่ของการประเมินมูลค่าของอสังหาฯ การวิเคราะห์ทำเล การประเมินค่าเช่า การหาลูกค้า และข้อกฏหมายต่างๆ รวมถึงต้องมีเงินทุนสูงในระดับหนึ่ง แม้จะใช้วิธีการกู้เพื่อนำค่าเช่ามาหมุนก็ต้องมีเครดิตเพียงพอ และมีความเสี่ยงที่จะต้องเป็นภาระผ่อนชำระหากไม่สามารถหาผู้เช่าได้
🙋♀️ทำงานฟรีแลนซ์ สิ่งสำคัญสำหรับคนทำงานฟรีแลนซ์ที่มีรายได้ไม่แน่นอน ก็คือแบ่งสัดส่วนการใช้และเก็บเงินให้ชัดเจน รวมถึงแบ่งเงินออมออกเป็นส่วนๆ เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือวางแผนภาษี นอกเหนือจากนั้นจึงนำเงินมาลงทุนเพิ่มเติมได้ คนทำงานฟรีแลนซ์จะมีทั้งคนที่มีเวลาติดตามข่าวสารการลงทุน ไปจนถึงคนที่งานยุ่งจนแทบไม่มีเวลา ดังนั้นการเลือกลงทุนจึงต้องชั่งน้ำหนักและความเสี่ยงให้เหมาะสม เช่น เน้นการลงทุน: ระยะยาว, ความเสี่ยง: ต่ำ – ปานกลาง
รูปแบบการลงทุนที่น่าสนใจ คือ
1. กองทุนรวมหุ้น สำหรับคนทำงานฟรีแลนซ์ที่ไม่มีเวลามากนัก อาจจะพิจารณาเลือกลงทุนในกองทุนรวมหุ้นไม่ต่างจากพนักงานออฟฟิศทั่วไป ส่วนจะเลือกลงทุนในกองทุนรวมหุ้นประเภทใดนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบ ความเสี่ยง และผลตอบแทนที่คาดหวัง
2. หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ กลับกัน ถ้าคุณเป็นคนทำงานฟรีแลนซ์ที่มีเวลาในการเช็กความเคลื่อนไหวของตลาดหลักทรัพย์อยู่แทบจะตลอดเวลา เราอาจจะเลือกพิจารณลงทุนกับหุ้นเป็นรายตัวเลยก็ได้ ซึ่งก็จะใช้หลักคิดไม่ต่างจากอาชีพอื่นๆ นั่นคือ ต้องหมั่นติดตามอยู่เสมอว่าบริษัทนั้นทำธุรกิจอะไร และควรต้องมีเวลาติดตามการบริหารงานของบริษัทที่เราลงทุนเป็นระยะ
3. สินทรัพย์ความเสี่ยงสูงอื่นๆ เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงและความซับซ้อนสูง ควรทำความเข้าใจให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
💙NFT (คริปโทเคอร์เรนซี ประเภท Non-fungible token) อาจไม่ใช่แนวทางการลงทุนที่ชัดเจน แต่มันคือช่องทางสร้างรายได้แบบใหม่ของเหล่าศิลปิน นัดวาด ฯลฯ ซึ่งจะเป็นการแปลงผลงานศิลปะที่คุณสร้าง ให้กลายเป็นสัญญาความเป็นเจ้าของบนโลกออนไลน์ โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อให้สัญญาฉบับนั้น (Token) ไม่สามารถทำซ้ำได้ และยืนยันความเป็นเจ้าของได้ และนำเอาสัญญาไปประมูลขายผ่านช่องทางออนไลน์อีกที ปัจจุบันมีศิลปินหลายรายหารายได้จาก NFT เป็นหลักแสนถึงหลักล้าน ถ้าคุณสามารถทำผลงานที่โดนใจผู้คนได้
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร การลงทุนก็คือส่วนหนึ่งของชีวิตที่ทุกคนควรจะศึกษาและมองหาหนทางที่เหมาะสมสำหรับตัวเอง ที่สำคัญก็คือ ก่อนจะลงทุนทุกครั้งควรบริหารจัดการด้านการเงินให้มั่นคง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราจะสามารถใช้ชีวิตได้ตามไลฟ์สไตล์ที่ตนเองต้องการ โดยที่การลงทุนนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตจนเกินไป
ฮ้อปจึงขอแนะนำ การลงทุนจากสิ่งที่ทุกคนมี และไม่ได้ใช้งานตลอดแบบ รถยนต์ เพื่อนๆ สามารถนำรถยนต์ที่มีอยู่มาแชร์สร้างรายได้ผ่านแพลตฟอร์มของเรา ให้รถทำเงินให้คุณได้ง่ายๆ แม้ตอนคุณหลับ
HAUP Car Sharing คือ แพลตฟอร์มที่ให้บริการคาร์แชริ่งรายแรกในไทย 🚙📲 ที่มีจุดบริการมากกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ 📍 เราเป็นทางเลือกใหม่ในการเดินทางแบบ Personal Mobility for Everyone ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนเข้าถึงรถยนต์ได้หลากหลายประเภท ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน 👍🎉 ไม่ว่าจะออกทริปต่างจังหวัด 🏕 หรือเดินทางภายในตัวเมืองก็สะดวกสบาย 🏙 เพียงแค่ปลดล็อกรถผ่านแอปพลิเคชันที่มีระบบ Internet of Things (IoT) ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะที่ทำให้ทุกอย่างเชื่อมต่อกันได้ แม้ไม่มีกุญแจรถ
ฮ้อปพาร์ทเนอร์ คือ อะไร?
HAUP Partner คือ เจ้าของรถนำที่รถยนต์มาแชร์บนแพลตฟอร์มฮ้อป เพื่อหารายได้ในรูปแบบของ คาร์แชร์ริ่ง (Carsharing) โดยสามารถบริหารจัดการผ่านเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงรถยนต์เข้ากับระบบสมาร์ทโฟน ทำให้รถยนต์ที่เปิดบริการบนแอปฯ ฮ้อปมีความปลอดภัยและจัดการออนไลน์ได้ 100% คลิกอ่านต่อ
วิธีการสมัครเป็นพาร์ทเนอร์
รถยนต์แบบไหนที่สามารถให้บริการคาร์แชร์ริ่งได้?
สมัครเป็น HAUP Partner มีค่าแรกเข้าหรือไม่?
เก็บค่าคอมมิชชั่นหรือไม่?
ไม่ต้องทำประกันภัยเชิงพาณิชย์แบบรายปีได้หรือไม่?
มีระยะเวลาของสัญญาแบบไหนน้อยที่สุด?
หน้าที่และความรับผิดชอบฮ้อปพาร์ทเนอร์คืออะไร?
Tips & Trick เคล็ดลับคาร์แชร์ริ่ง
ฮ้อป แชร์สร้างรายได้ เช่ารถง่ายใกล้ตัวคุณ
สมัครเป็น HAUP Partner 🔗 คลิก
สอบถามเพิ่มเติม LINE 📲 @haup.partner หรือคลิก
This article offers a thorough <a href="https://aniwatches.com/">overview of investment</a> options tailored to different career stages and risk appetites. I especially appreciate the detailed breakdown of various investment types like equity mutual funds, stocks, and high-risk assets. For those exploring passive income opportunities, consider the innovative approach of car sharing with HAUP Car Sharing. It's a practical way to leverage assets you already own while contributing to your financial growth. Great read!